top of page

Videos

Advanced Thai Listening Ep. 5 Work from Home อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
05:30

Advanced Thai Listening Ep. 5 Work from Home อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

https://www.thaiwithbowie.com/ https://www.facebook.com/Thaiwithbowie/ Free Intro Music - Upbeat Feel Good Music - 'Enthusiasm' Jay Man - OurMusicBox http://www.youtube.com/c/ourmusicbox Work from Home อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ สวัสดีค่ะทุกคน ปี 2020 นี้ เป็นปีที่ท้าทายมาก ๆ เลยนะคะ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 โบว์เชื่อว่าหลายคนจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Work from Home ซึ่งการทำงานในรูปแบบนี้ จะช่วยให้เราไม่ต้องออกไปเจอผู้คน ทำให้ลดแพร่ระบาดของไวรัสไปได้มาก และวันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการทำงานที่บ้านอย่างไรให้มีประสิทธิภาพกันค่ะ - ขั้นแรก เราต้องเขียนรายการออกมาให้ชัดเจนว่าวันนี้เราต้องทำอะไรบ้าง เรียงลำดับตามความสำคัญ และกำหนดเส้นตายการส่งงานของตัวเองให้ชัดเจน เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการทำ To Do List นั่นเองค่ะ - ข้อที่ 2 การสร้างบรรยากาศ ให้เหมือนกับที่ทำงาน เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายรู้ว่าเราต้องทำงาน ถึงแม้จะอยู่ที่บ้าน ต้องตื่นนอน อาบน้ำ ทำทุกอย่างให้เหมือนกับวันทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลือกที่นั่งที่แสงเพียงพอ จัดโต๊ะ เก้าอี้ ให้เหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด รวมถึงเตรียมอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ให้พร้อมด้วยนะคะ - ขั้นที่ 3 กำหนดเวลาที่จะทำงานแล้ว ก็ต้องกำหนดและเวลาที่จะพักด้วยค่ะ แม้ว่าการทำงานที่บ้านจะทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น แต่การกำหนดขอบเขตของเวลาอย่างชัดเจน จะช่วยให้เราไม่ทำงานมาก หรือน้อยจนเกินไป ส่งผลให้งานที่ทำมีคุณภาพ แล้วอย่าลืมคุยกับคนที่บ้านให้เข้าใจว่าเราต้องทำงานด้วยนะคะ เพื่อลดการรบกวนซึ่งบั่นทอนประสิทธิภาพของเรา ถ้าคนที่บ้านเข้าใจความสำคัญและสภาวะที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ ก็อาจจะกลายเป็นผู้สนับสนุนที่ทำให้การ Work from home ของเรามีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้นทีเดียวค่ะ :D - ขั้นที่ 4 เลือกให้เครื่องมือในการทำงานที่เหมาะสม เราควรใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะการ Work from home ในยุค 4.0 นั้น มีเครื่องมือมากมายที่จะทำให้เราสามารถทำงานที่บ้านได้ง่ายขึ้น ทั้ง Dropbox หรือ GoogleDrive ในการเก็บงานหรือส่งไฟล์งาน ทำนัดหมายตารางงาน จาก Google Calendar ประชุมประจำวันด้วย Microsoft team, Zoom, หรือ Skype หรือ อาจจะใช้เป็น Wunderlist ในการทำเช็กลิสต์การทำงานก็ได้นะคะ สุดท้ายนี้ โบว์อยากให้ทุกคนใช้เวลาช่วงนี้แบบคิดบวกค่ะ ไม่ตระหนกจนเกินไป หาโอกาสพัฒนาตัวเองจากความเปลี่ยนแปลง การทำงานที่บ้านอาจเกิดความยากลำบากไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อดีหลายอย่างเลยนะคะ หลายคนมีโอกาสนี้ในการจัดบ้านใหม่ให้เหมาะสมกับที่จะต้องอยู่ทั้งวัน การไม่ต้องเดินทางไปทำงาน ก็ทำให้เราประหยัดค่าเดินทาง มีเวลาว่างเพิ่มขึ้น สามารถใช้เวลาอ่านหนังสือ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หรือแม้แต่ทำสิ่งง่าย ๆ ที่เราบางครั้งก็อาจจะไม่มีเวลาทำนะคะ เช่น ทำอาหารกินเอง ใช้เวลาพูดคุยกับคนที่บ้าน ทั้งหมดนี้ เราจะสามารถมองเห็นได้จากการคิดในแง่บวก ไม่แน่นะคะว่าการ Work from home อาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหม่ให้ชีวิตเราเจอเป้าหมายใหม่ที่สำคัญ สุดท้ายนี้ โบว์อยากขอให้ทุกคนอยู่ดูแลสุขภาพทั้งทางกายแล้วก็ใจ อย่าเรื่องการเงิน แล้วเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันค่ะ แล้วเจอกัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก Techsauce, time.com, และ pcmag.com คำศัพท์ที่น่าสนใจ ท้าทาย /táa taai/ = challenge สถานการณ์ /sà-tăa-ná-gaan/ = situation แพร่ระบาด /prâe rá-bàat/ = spread out จำเป็น /jam bpen/ = have to ; necessary รูปแบบ /rôop bàep/ = pattern; format ลด /lót/ = reduce เส้นตาย /sâyn dtaai/ = deadline ชัดเจน /chát jayn/ = clearly; [to be] be clear บรรยากาศ /ban-yaa-gàat/ = atmosphere กระตุ้น /grà-dtûn/ = stimulate โดยเฉพาะอย่างยิ่ง /doi chà-pór yàang yîng/ = especially ; particularly เพียงพอ /piang por/ = [to be] sufficient ; adequate ;enough เหมาะสม /mòr sŏm/ = appropriately ; suitably พัก /pák/ = rest ; break ขอบเขต /kòp kàyt/ = border ; boundary ; limit คุณภาพ /kun-ná-pâap/ = quality บั่นทอน /bàn ton/ = cut down เทคโนโลยี /ték-noh-loh-yee/ = technology เครื่องมือ /krêuang meu/ = tool ; instrument นัดหมาย /nát măai/ = make an appointment with ประชุม /bprà-chum/ meet ; hold a meeting คิดบวก/kít bùak / = positive thinking ตระหนก /dtrà-nòk/ = [to be] frightened โอกาส /oh-gàat/ = opportunity ในขณะเดียวกัน /nai kà-nà dieow gan/ = meanwhile ; at the same time ประหยัด /bprà-yà/ = economize ; save ; be thrifty แรงบันดาลใจ /raeng ban-daan/ = jai inspiration
Advanced Thai Listening Ep.7 จริง ๆ ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น! Impostor Syndrome โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
07:24

Advanced Thai Listening Ep.7 จริง ๆ ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น! Impostor Syndrome โรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง

Free Intro Music - Upbeat Feel Good Music - 'Enthusiasm' Jay Man - OurMusicBox http://www.youtube.com/c/ourmusicbox Facebook: https://www.facebook.com/Thaiwithbowie/ " ฉันไม่ควรมาอยู่ตรงนี้เพราะฉันไม่เก่งเลย จริง ๆ แล้วฉันแค่โชคดี ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร ใคร ๆ ก็ทำได้ ” คำพูดเหล่านี้เป็นคำที่โบว์มักจะพูดในหัวตัวเอง เวลาที่ประสบความสำเร็จ หรือทำงานสำคัญสำเร็จ โบว์สับสนมาก ๆ ว่าทำไมถึงมีความคิดแบบนี้เสมอ จนวันนึง โบว์ได้ไปอ่านบทความเกี่ยวกับ Impostor Syndrome หรือโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่งฟังดูตลก ๆ ใช่ไหมคะ Impostor Syndrome ไม่ใช่ความรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากเกินไป จนเราจะทำไม่ได้ แล้วก็ไม่ใช่ความกลัวที่จะล้มเหลวด้วย แต่มันเป็นความรู้สึกที่เราคิดว่าตัวเราไม่ได้มีความสามารถในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง และมีความรู้สึกกลัวว่าคนอื่นจะ ‘จับได้’ ว่าเราไม่ได้มีความสามารถแบบนั้น หรือรู้สึกไม่ควรคู่กับความสำเร็จที่เราได้รับนั่นเอง และถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนมีความสามารถจริง ๆ เราก็ยังคิดว่าเราไม่คู่ควรที่จะได้รับคำชื่นชม ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นความรู้สึกที่เราคิดเองในหัวช่วงหลัง ๆ โบว์สังเกตเห็นว่ามีหลายคนที่มีอาการนี้เหมือนกัน และหลายครั้งที่ความสำเร็จก็ไม่ได้ทำให้มันหายไป เพราะบางคนยิ่งสำเร็จก็อาจจะยิ่งเป็นโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่งมากขึ้น 3 วิธีสังเกต อาการเสี่ยง เป็นโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง (IMPOSTER SYNDROME) 1. กดดันตัวเอง มีมาตรฐานสูง เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง แต่ถ้าไม่สำเร็จเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะคิดว่าตัวเองนั้นไม่เก่งในสิ่งนั้นเลยทันที 2. พวกยอดมนุษย์ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เป็นคนที่คิดว่างานที่ทำจะต้องทำได้ดีกว่านี้ เลยมองว่าสิ่งที่ทำนั้น ไม่เคยดีพอ และไม่มีความพอใจในงานที่ทำ 3. ขาดความมั่นใจ กลัวความผิดพลาด เป็นคนที่มักจะวิตกกังวลกับสิ่งที่กำลังเผชิญ และกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ทั้งที่ตัวเองนั้น ก็เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเจอคนที่เก่ง ก็มักจะเปรียบเทียบตัวเองกับเขาเหล่านั้นเสมอ และจะรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยในทันที แม้ว่าอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่งมากเกินไปนี้ จะไม่ได้รักษาให้หายได้เหมือนการกินยารักษาโรคทั่ว ๆ ไป โบว์ก็มีวิธีที่จะช่วยให้เราเข้าใจ และตระหนักถึงภาวะนี้ เพื่อรับมือกับมันค่ะ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจและตระหนักถึงภาวะนี้ เพื่อรับมือกับมันค่ะ 1. แยกความรู้สึก ออกจากความจริง การหยุดความคิดที่ฟุ้งซ่านและมีสมาธิจดจอกับสิ่งที่ทำ จะช่วยให้เรามองเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามความจริง ไม่วิตกกังวลหรือคิดไปเอง 2. ให้อภัยตัวเองเมื่อทำสิ่งผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จงรับรู้ว่าคุณก็อาจจะที่จะทำผิดพลาดได้ค่ะ การไม่ประสบความสำเร็จในบางเรื่อง ไม่ได้เกิดกับคุณเพียงคนเดียว แต่หลาย ๆ คน ก็เป็นเหมือนกัน ทุกคนมีสิทธ์ที่จะหยุดพักหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องแบกรับปัญหาทุกอย่างไว้เพียงลำพัง 3. ตอบสนองความล้มเหลวด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความล้มเหลวเป็นเพียงโอกาสที่จะเริ่มต้นอย่างชาญฉลาดอีกครั้ง แทนที่จะมัวแต่กล่าวโทษตัวเองเมื่อทำผิดพลาด เราควรจะเรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นบทเรียนในการพัฒนาตัวเอง ลองมองใหม่ในหลาย ๆ ด้าน แล้วคุณจะเห็นว่าบางครั้งความล้มเหลวก็ไม่ได้แย่ไปซะทุกอย่าง มันอาจจะนำมาซึ่งโอกาสที่จะทำให้คุณได้พัฒนาตัวเอง 4. เปลี่ยนความคิด และคำพูดที่มีต่อตัวเอง ความคิดและคำพูดที่คุณบอกกับตัวเองนั้น เป็นเหมือนข้อความอัตโนมัติ ที่จะเริ่มเล่นในสถานการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกของคุณ เช่น เวลาที่คุณต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำงาน ถ้าปกติ คนเป็นคนคิดลบ เวลาที่คุณเจอปัญหา มันจะเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่คุณจะเอาชนะความคิดเหล่านั้น เพราะข้อความลบ ๆ ได้ถูกปลูกฝังซ้ำ ๆ อยู่ในจิตใต้สำนึกของคุณ Fake it ‘til you make it ลองเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิด และคำพูดของคุณให้เป็นด้านบวกก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ตอนแรก ๆ มันอาจจะยากหน่อยเพราะเราไม่ชิน แต่เมื่อความคิดบวก ๆ เหล่านี้ ถูกปลูกฝังในจิตสำนึกของคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้าย คุณจะพบว่าการคิดบวกกับตัวเองไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ และเมื่อคุณจะคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ความรู้สึกบวกที่คุณสะสมมา ก็จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์นี้ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ความคิดที่ฟุ้งซ่าน โบว์เขียนเรื่องนี้จากประสบการณ์ตัวเองค่อนข้างเยอะเลยนะคะ เพราะเป็นคนชอบคิดลบกับตัวเอง และคิดว่าตัวเองไม่เก่งอยู่เสมอ ฟังดูอาจจะไม่น่าเชื่อนะคะ แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับหลาย ๆ คนนะคะ ขอบคุณสำหรับการรับฟัง แล้วเจอกันค่ะ References: https://www.girlsguidetopm.com/10-tips-to-overcome-imposter-syndrome/Terra BKK. https://www.terrabkk.com/articles/193547 ทางแก้อาการอิมโพสเตอร์ซินโดรม ความรู้สึก ‘ไม่เก่งจริง’ จาก Neil Gaiman. (n.d.). The MATTER. https://thematter.co/brief/imposter-syndrome-remedy/24237
bottom of page